เป็นเรื่องพื้นฐานมากที่เราอาจจะมองข้ามไป ผมก็คงจะเริ่มกับสีที่เป็นเหมือนเพื่อนยากมานานนมอย่างมิสเตอร์คัลเลอร์ที่เราเรียกกันติดปากว่ากันเซ่(แต่ควรเรียกว่า”กุนเซ่”น่าจะถูกกว่า) ข้อดีหลายประการของมันคือ
1.สีที่แห้งจนแข็งติดขวด แค่เติมทินเนอร์ลงไปทิ้งไว้ซักคืนจะคืนสภาพเดิม ซึ่งสีอื่น ๆแทบจะไม่มีคุณสมบัตินี้อยู่ ถ้าแห้งก็ถือว่าเจ๊งหมดสภาพไปต้องซื้อใหม่
2.มีเนื้อสีละเอียด เบา เหมาะสำหรับการพ่นสีมาก ผิวที่พ่นได้จะเนียนกว่าสีทุกยี่ห้อ
3.มีเฉดสีให้เลือกมากเป็นร้อยสี ไม่เชื่อก็ลองดูชั้นขายสีของทามิยะที่ตั้งเทียบกันอยู่ น้อยกว่ากันครึ่งหนึ่งเห็นจะได้
สำหรับข้อแนะนำซึ่งคุณจะเชื่อผมหรือไม่ก็แล้วแต่ฌาณทัศนะของแต่ละบุคคล เพราะนี้เป็นสิ่งที่ผมรับรู้ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่เรียนรู้อย่างลองผิดลองถูกมานาน ก็ค้นพบว่าทินเนอร์ที่ดีที่สุดก็คือของ ๆ มันนั้นเอง ถึงแม้ว่ามันจะทำละลายสีได้ช้ากว่าพวกทินเนอร์อย่างสามเอ หรือหัวทินเนอร์แบบอื่น ๆ ซึ่งทินเนอร์พวกนี้มีผลข้างเคียงทำให้สีมีอายุสั้นลงเก็บไม่ได้นาน เท่าเดิมหากปล่อยสีแห้งจนสนิทจะแตกเป็นท้องนาหน้าร้อน ต่อมาจะกลายเป็นผงที่ไม่ยอมทำละลายกับทินเนอร์อีกเลย นอกจากนั้นการใช้ทินเนอร์แปลกปลอมยังมีอาการทำให้พื้นผิวเป็นกระดาษทราย รวมถึงการหลุดร่อนของสีหากพ่นงานโดยปราศจากสีรองพื้น
ส่วนทินเนอร์ของที่ผลิตในไทยก็พอใช้ได้ แต่ก็มีปัญหาเรื่องการหมดอายุ เมื่อเก็บนาน ๆ แล้วจะมีปัญหาไม่ทำละลายสีที่สมบูรณ์ อาการนี้
...เอาไว้แค่นี้ก่อนครับเดี๋ยวค่อยมาต่อคราวหน้าช่วงนี้ผมงานเยอะมากเพราะไปเข้าร่วมงานของหลวงหลายโครงการ และยังงานของนักสะสมอีกหลายชิ้นที่ยังพันตูกันอยู่ หวังว่าพื้นที่เล็ก ๆ ของเราคงมีประโยชน์แก่ผู้เยี่ยมชมทุกท่านครับ
2 comments:
So Interesting! ^_^
Thanks, Anonymous
If you have some idea to developing Blog ,please told me.
Post a Comment